Ichimoku

ตัวบ่งชี้ Ichimoku ทำหน้าที่สำคัญหลายประการ ได้แก่:

• ระบุทิศทางของแนวโน้มหลัก

• แสดงโมเมนตัมและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

• ให้ระดับแนวรับและแนวต้านที่เชื่อถือได้

• ให้สัญญาณการซื้อขาย

แม้ว่าตัวบ่งชี้นี้อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่เมื่อคุณเข้าใจแล้ว คุณจะพบว่ามันทั้งเรียบง่ายและมีคุณค่าอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ตลาด

นบทเรียนนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของ Ichimoku และสัญญาณที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ เรายังจะอธิบายถึงวิธีการใช้เครื่องมือทางเทคนิคนี้เพื่อวิเคราะห์ตลาดอีกด้วย

องค์ประกอบของ Ichimoku

ตัวบ่งชี้นี้มีพื้นฐานมาจาก moving averages ที่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วน เส้นต่าง ๆ ของตัวบ่งชี้นี้มีชื่อดั้งเดิมในภาษาญี่ปุ่น รวมถึงชื่อสมัยใหม่ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน

ไปดูตัวอย่างของตัวบ่งชี้ Ichimoku บนกราฟกัน เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชั้น — อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

'ปัจจุบัน' ในตัวบ่งชี้ Ichimoku

มาเริ่มกันที่ปัจจุบันกันก่อน ปัจจุบันถูกกำหนดด้วย 2 เส้น ได้แก่ Kijun และ Tenkan Kijun (เส้นฐาน) เป็นเส้น moving average ที่มีช่วงเวลาที่ใหญ่กว่า มันจะวัดโมเมนตัมในระยะกลางและมีน้ำหนักมากกว่า Tenkan ราคาจะตัดข้ามเส้น Tenkan บ่อยกว่า Kijun แต่หากราคาตัดผ่าน Kijun นั่นอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในตลาด

'อนาคต'

อนาคตถูกแสดงด้วยเมฆ Ichimoku เมฆนี้เกิดจากเส้น moving averages 2 เส้นที่ถูกเลื่อนไปข้างหน้า หากเส้น moving average ที่มีช่วงเวลาที่ใหญ่กว่า (Senkou Span B) อยู่ต่ำกว่าเส้น moving average ที่มีช่วงเวลาที่เล็กกว่า (Senkou Span A) เมฆจะถูกมองว่าเป็นขาขึ้น และมักมีสีอ่อน ในทางกลับกัน หาก Senkou Span B อยู่เหนือ Senkou Span A จะถูกมองว่าเป็นขาลง และเมฆขาลงมักมีสีเข้ม เมฆขาขึ้นหมายถึงผู้ซื้อกำลังครองตลาด ส่วนเมฆขาลงจะแสดงว่าผู้ขายกำลังควบคุมสถานการณ์ คุณจะเห็นว่าเมฆเปลี่ยนสีไปมา ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนมือของอำนาจระหว่างขาขึ้นและขาลง ความกว้างของเมฆก็สำคัญ เพราะยิ่งเมฆขาลงกว้างเท่าไหร่ ผู้ขายก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น เพื่อให้เข้าใจสมดุลของอำนาจของตลาดในปัจจุบัน ให้ดูส่วนของเมฆที่อยู่ในอนาคต (ด้านขวาของราคาปัจจุบัน) ส่วนของเมฆที่สอดคล้องกับราคาปัจจุบันจะทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านของราคา

'อดีต'

ในอดีต มีเส้นเดียวที่เรียกว่า Chinkou Span มันแตกต่างจากเส้นอื่น ๆ ใน Ichimoku โดยเส้นนี้ไม่ใช่เส้น moving average แต่เป็นเพียงกราฟราคาที่ถูกย้อนกลับไปหลายช่วงเวลา ดังนั้นมันจึงล่าช้ากว่าตลาด วิธีการที่เส้นนี้มีปฏิสัมพันธ์กับกราฟราคานั้นจะให้คำแนะนำที่มีประโยชน์แก่เทรดเดอร์

ทำไมบางองค์ประกอบของตัวบ่งชี้จึงถูกเลื่อนไปข้างหน้า ในขณะที่บางส่วนถูกย้อนกลับไปข้างหลัง? ประการแรก หากเส้นทั้ง 5 อยู่ในพื้นที่เดียวกัน นั่นจะทำให้อ่านกราฟยาก นอกจากนี้ การจัดวางแบบนี้ยังทำให้องค์ประกอบของตัวบ่งชี้ Ichimoku สร้างสัญญาณการซื้อขายได้ อีกเดี๋ยวเราจะแสดงให้คุณเห็นวิธีการตีความสัญญาณเหล่านี้

วิธีการใช้งาน Ichimoku

ในการนำ Ichimoku ไปใช้บนกราฟใน MetaTrader ให้คลิกที่ Insert เลือก Indicators จากนั้นเลือก Custom และคลิก Ichimoku ในส่วนของการตั้งค่า คุณสามารถกำหนดค่าให้กับ Tenkan, Kijun และ Senkou Span B ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนสีของเส้นต่าง ๆ ตามความชอบของคุณได้อีกด้วย

การตั้งค่าเริ่มต้น 9-26-52 เป็นพารามิเตอร์ดั้งเดิมที่ผู้พัฒนาตัวบ่งชี้นี้เสนอไว้ การตั้งค่านี้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ และสามารถใช้ได้กับทุกกรอบเวลา คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเริ่มต้นได้ตามต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยให้ค่า Tenkan-sen จะเป็นค่าที่น้อยที่สุด ส่วนค่า Senkou Span B จะเป็นค่าที่มากที่สุด

การเทรดด้วย Ichimoku

ตำแหน่งของเส้น Ichimoku สามารถให้มุมมองที่ชัดเจนแก่เทรดเดอร์เกี่ยวกับแนวโน้มที่มีอยู่ เมื่อตลาดเคลื่อนที่ในแนวข้าง เส้นอินดิเคเตอร์จะอยู่ในแนวระดับ ทำให้ราวแกว่งตัวรอบ ๆ เส้นเหล่านี้ ส่วนเมฆจะมีความบางและเปลี่ยนสีบ่อยครั้ง

หากราคาอยู่เหนือเมฆ Tenkan และ Kijun และเมฆที่เป็นขาขึ้นจะมีความหนาแน่น ซึ่งนั่นก็คือแนวโน้มขาขึ้น ในกรณีนี้ Chinkou Span จะอยู่เหนือราคา

หากราคาอยู่ใต้เมฆ Tenkan และ Kijun และเมฆที่เป็นขาลงมีความหนาแน่น แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาลง ในกรณีนี้ Chinkou Span จะอยู่ใต้ราคา

เส้น Ichimoku จะสร้างสัญญาณการซื้อขายผ่านการตัดกันของเส้นต่าง ๆ และราคา นี่คือเหตุผลที่ทำให้มีสัญญาณที่หลากหลายในตารางด้านล่าง โปรดสังเกตว่าเมื่อแนวโน้มใหม่เริ่มต้นขึ้น สัญญาณจากองค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวบ่ชี้มักจะปรากฏขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันและชี้ไปในทิศทางเดียวกัน

สัญญาณการซื้อขาย Ichimoku

มาทบทวนตัวอย่างกันว่า Ichimoku ให้สัญญาณการซื้อขายอย่างไร

1 - ราคาตกลงต่ำกว่าเส้น Kijun-sen นี่เป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง

2 - เส้น Tenkan-sen ตกลงต่ำกว่าเส้น Kijun-sen

3 - เส้น Chinkou Span ตัดผ่านกราฟราคาลงไปด้านล่าง

4 - ราคาทะลุลงต่ำกว่าเมฆ Ichimoku

5 - เมฆ Ichimoku เปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง

สัญญาณที่ 2-4 ปรากฏขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน และบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการเปิดคำสั่งขาย หลังจากนั้น เส้นของตัวบ่งชี้จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านให้กับราคา

6 - เส้น Chinkou Span กลับขึ้นไปเหนือกราฟราคา อาจพิจารณาเก็บกำไรจากสถานะshort

7 - ราคาได้ขึ้นไปเหนือเส้น Kijun-sen

8 - เส้น Tenkan-sen ได้ขึ้นไปเหนือเส้น Kijun-sen

9 - เมฆ Ichimoku จาลงที่หนาทึบจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านให้กับราคา แต่ในที่สุดราคาก็สามารถทะลุผ่านไปได้

10 - เมฆ Ichimoku ได้สลับจากขาลงเป็นขาขึ้น ราคาได้ขึ้นไปเหนือเมฆ มีสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังก่อตัว แม้ว่าเส้น Chinkou Span ได้พักตัวที่กราฟราคา ซึ่งอาจเป็นแนวโน้มออกข้างไปสักระยะ

สรุป

ตัวบ่งชี้ Ichimoku เป็นระบบการเทรดที่สมบูรณ์ในตัวเอง คุณสามารถใช้เพียงอินดิเคเตอร์นี้ในการเทรดได้เลย มันช่วยให้คุณสามารถระบุแนวโน้ม ตรวจสอบระดับแนวรับและแนวต้าน และรับสัญญาณเข้าซื้อขายได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าของตัวบ่งชี้และใช้ร่วมกับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ได้อีกด้วย